เผยเคล็ดลับของ นักขายระดับโลก ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ
.
เคล็ดลับที่เป็น หัวใจสำคัญของการขาย จะทำให้คุณกลายเป็น สุดยอดนักขาย ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เหมะสำหรับ ผู้ที่เป็น นักขาย เซลล์แมน นักการตลาด พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ ผู้ที่อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ผู้ที่เคยล้มเหลวในการขาย ผู้ที่อยากเริ่มต้นค้าขาย และบุคคลทั่วไป
มีโอกาสได้อ่านบทความหนึ่ง ซึ่งดีมากๆ อยากแบ่งปันให้คนที่ทำงานเป็นนักขาย นักการตลาด ผู้ที่อยู่ในแวดวงนักขาย เช่น พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ หรือ ผู้ที่คิดที่จะเริ่มต้นเป็น นักขาย ได้ลองศึกษาดู ผมว่าค่อนข้างได้ประโยชน์มากๆ ซึ่งหลายคนที่ได้อ่านบอกว่า ทำให้คนหมดความหวังมีพลังขึ้นมาใหม่
เคล็ดลับที่ทำให้คนที่แม้แต่อยากเลิกเป็น นักขาย กลายเป็น สุดยอดนักขาย ที่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต เป็น Top Sale Of The Year พลิกชีวิต สามารถมีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งเหมาะมากๆสำหรับ ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น และผู้ที่เริ่มต้นชีวิต นักขาย
"นักขายระดับโลก" ผู้อยู่เบื้องหลังเงิน 1 ล้านแรกของผม
ถ้าคุณได้รู้บทเรียนนี้"คุณจะกลายเป็น สุดยอดนักขาย ระดับ Top ที่ได้รับดีลเสมอ"
ผมมักบอกเสมอว่า
"ผมคือนัก Shopping ตัวยง หรือที่เรียกว่า นักซื้อตัวยง ชอบซื้อ ชอบ Shopping"
และผมมักจะเสร็จ นักขาย เก่งๆเสมอ
แต่ผมก็จะได้ไอเดียดีดีจาก สุดยอดนักขาย ระดับ Top เหล่านี้
มาประยุกต์ใช้กับงานขายของตัวเอง
ย้อนกลับไปเมื่อ 6 - 7 ปีก่อน
ผมเริ่มต้นด้วยการเป็นเซลล์ขายรถ ผมเป็น นักขาย ที่ไม่เก่งเลย ขายไม่ค่อยได้
ช่วงเริ่มต้นของงานขายกระท่อนกระแท่น ไม่ดีนัก
ถึงขนาดต้องขายแบบน่าสงสาร คืออ้อนวอนขอดีลลูกค้า ขอให้ลูกค้าช่วยซื้อ
แน่นอนรถยนต์ไม่ใช่คันละ 500 บาท
ผมมักจะ Fail ผิดพลาด อยู่เสมอ
.
ถ้าใครเคยทำงานเป็น นักขาย จะรู้ว่า ถ้าคุณขายไม่ได้ คุณจะต้องถูกเรียกเข้าพบหัวหน้า ซึ่งนักขายจะเรียกว่า ห้องเย็น หรือ ห้องเชือดนักขาย
ผมถูกเรียกเข้าตัวเข้าห้องเย็น (ห้องเชือดนักขาย)
ผู้จัดการถามผมว่า"ทำไมคุณขายรถยนต์ไม่ได้ซะที"
ทำให้เด็กอายุ 21 แบบผม
นึกย้อนกลับไปว่า
ทำไมผมไม่ไปทำงานแบบที่คนจบ ปริญญาตรีทำกัน
คือทำงานออฟฟิต เป็น มนุษย์เงินเดือน รับเงินเดือน 15,000 บาท
ทำไมผมต้องมารับเงินเดือน 4,000 บาท และไม่มีค่าคอมมิชชั่นเลยสักบาท
หลังออกจากห้องเย็น หรือ ห้องเชือดนักขายนั้น
ผมมีความรู้สึกอยากเลิกเป็น นักขาย เต็มแก่
ผมเกลียดสถานที่ๆผมอยู่จับใจ
"ผมไม่เหมาะกับการเป็นนักขาย"
"ผมไม่ชอบไปขอใครกิน !"
ณ ช่วงนั้นผมจิตตก คิดโทษตัวเองที่ทำไมเลือกเดินเส้นทางนี้
ผมนึกถึงคำพูดเพื่อนๆและคนรอบตัวที่เคยพูดว่า
มึงไปทำงานขายทำไม ? ตอนนั้นชีวิตของการเป็น นักขายของผมใกล้จะจบลงแล้ว
ผมกำลังจะกลืนน้ำลายตัวเอง
กลับไปใช้ชีวิตเช่นคนปกติ
.
.
แต่แล้ว....
ผมได้พบกับนักขายประกันท่านนึง เค้ามาเสนอขายประกันให้ผม
"ผมบอกเขาตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมมี 136 บาท"
ผมใส่เสื้อผ้าดูดี บุคคลิคภาพดี หน้าตาดี
แต่เงินในกระเป๋าของผมมีน้อยกว่าลุงคนที่ปั่นสามล้อเก็บขยะคนนั้นซะอีก
(และภาพลุงปั่นซาเล้งก็ผ่านหน้าผมไป เขาปั่นสามล้ออย่างช้าๆ พร้อมสูดควันบุหรี่เข้าปอดแล้วพ่นออกมาอย่างสบายอารมณ์)
ผมกินอาหารห่วยๆได้อีก 2 มื้อและผมมีเงินแค่พอนั่งรถกลับบ้าน
หรือผมเลือกกินข้าว 3 มื้อ และนั่งรถเมล์ฟรีและขากลับเดินกลับเข้าบ้าน
ผมมีตุ้มหูกับแหวนทองของแม่
พอจะขายได้สัก 5,000 บาท และใช้ชีวิตได้อีกสักเดือน
เพื่อกลับไปเป็นพนักงานออฟฟิต หรือ มนุษย์เงินเดือน
"ผมซื้อประกันคุณไม่ได้หรอก"(ผมบอกให้เขาฟัง)
ผมขายรถยนต์ แต่จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ถูกนัก
เพราะจริงๆผมยังไม่เคยขายรถยนต์ได้แม้แต่สักคันเดียว
ผมง้อ อ้อนวอน ลูกค้า ก็ไม่มีคนซื้อกับผม
ผมคงต้องออกจากวงการขายนี้ในไม่กี่วัน
.
เค้าบอกผมว่า....
คุณขายไม่ได้หรอก ถ้าคุณยังคิดว่าคุณจะขาย
ยังไงนะ ? (ผมถาม ก็ผมเป็นเซลล์ขายรถ ผมไม่ขาย แล้วลูกค้าจะซื้อเหรอ)
เขาบอกว่าผมก็เคยเป็นนักขายแบบคุณล่ะ
แต่ตอนนี้ผมเป็น"ผู้ให้"
ยังไงนะ ?(ผมถามอีกที อะไรคือเป็น ผู้ให้)
เขาบอกว่าภาพในหัวคุณคือ นักขาย ที่ต้องไปง้อลูกค้าให้ซื้อ ใช่ไหมครับ ?
ถ้าคุณคิดแบบนั้น คุณก็เป็นแบบนั้น !!!
ยังไงนะครับ (ผมถามอีกทีด้วยความสงสัย)
*** วันนี้ผมบอกให้คุณเปลี่ยนเป็น ผู้ให้ ***คุณเป็นผู้ให้ Lifestyle ไลฟ์สไตล์ กับผู้คน
คุณทำให้ชีวิตคนดีขึ้น ด้วยการทำให้เขามีรถยนต์ขับ
คุณไม่ต้องง้อใคร เพราะคุณมาทำให้ชีวิตเขาดีกว่าเดิม
แล้วคุณไม่ต้องง้อลูกค้าหรือไง ? (ผมถาม)
ผมเคยเป็นแบบนั้น และสภาพไม่ต่างจากคุณตอนนี้
.
แต่วันนี้ผมกลายเป็นผู้ให้ไปแล้ว
ผมได้ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตมั่นคง ด้วยการมอบประกันชีวิตคุ้มครองให้เขา
ผมได้มอบความมั่นใจในการเดินทางด้วยประกันอุบัติเหตุ
และผมได้ช่วยรักษาเงินในกระเป๋าผู้คนไว้ ทำให้เขาไม่ต้องเสียเงินภาษีเกินความจำเป็น (กรมธรรม์ประกันชีวิตสามารถใช้หักลดหย่อนภาษีประจำปี)
ผมเป็นผู้ให้ขนาดนี้ ทำไมผมต้องง้อ? ผมคือคนที่รักษาเงินในกระเป๋าเขาในทุกๆทาง
แล้วถ้าเขาไม่ซื้อล่ะ ? (ผมถาม)แล้วทำไมผมต้องมีมันล่ะ ?(ผมถามอย่างเด็กน้อย)
นั่นเพราะเขายังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีมันมากพอ
ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องอธิบาย
วันนี้คุณมีทองที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ 5,000 บาท คุณอาจจะอยู้ได้ 1 เดือน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ถ้าวันนี้คุณเจ็บป่วย ไม่สบายหรือ เกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยกับคุณ เงิน 5,000 บาท คงไม่พอ และคุณจะเอาเงินที่ไหนไปเริ่มต้นชีวิต และการจ่ายเงิน 1,600 บาทในวันนี้ มันจะช่วยรักษาเงินในกระเป๋าคุณได้ 1 ปี ผมสะอึก!
เขาพูดต่ออีกว่าเอาล่ะ วันนี้คุณคงไม่อยากใช้เงินก้อนนี้กับเรื่องอื่น ผมเข้าใจดี ผมเคยเป็นแบบคุณ คุณเป็นคนบุคลิกดี คุณเป็นคนมี Sense คุณเรียนรู้เร็ว ผมเชื่อว่า "คุณจะเป็น สุดยอดนักขาย ระดับTop ได้ในเวลาไม่นาน" และเมื่อไหร่ที่คุณมีรายได้เกิน 1 ล้านต่อปี และวันนั้นคุณจะต้องรักษาเงินของคุณจากภาษี ตอนนั้นคุณจะนึกถึงผม และคุณอยากจะจ่ายเงิน 100,000 บาทเพื่อให้ผมดูแล ! และวันนั้นผมจะกลับมา"ให้"คุณ! แล้ววันนั้นคุณจะเข้าใจเอง
.
เขาเดินไปขึ้นรถ Honda Accord คันใหม่ พร้อมส่งยิ้มให้กับผม แล้วถามผมว่า"คุณจะไปไหนต่อ" ขึ้นรถไปกับผมไหม เดี๋ยวผมไปส่ง ?
ผมตอบ.. ไม่ล่ะครับ ขอบคุณมาก !
"ผมจะไปทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น" และถ้าวันหนึ่งรถคันนี้ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณ หรือ ให้ความสุขกับคุณไม่ได้แล้ว ผมมีรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า เทคโนโลยี่ที่ดีกว่า ที่จะทำให้คุณมีชีวิตที่สบายขึ้น สะดวกขึ้น และประหยัดค่าเชื้อเพลิงและเงินในกระเป๋าคุณ และคุณจะมีความสุขในชีวิตมากขึ้น ! และวันนั้น"ผมจะกลับมาให้คุณเช่นกัน"
"ทั้งเขาและผมก็หัวเราะเสียงดัง"
ผมกลับบ้านมาพร้อมกับ เอาทองที่มีของแม่ไปจำนำให้หมดได้เงินมา 5,400 บาท และ
.
ผมเริ่มต้นชีวิตการขายแบบใหม่ ด้วยการ"เป็นผู้ให้"
เดือนต่อมาผมมีรายได้ 20,000 บาท
อีกเดือนผมมีรายได้ 30,000 บาท
เดือนที่ 3 ผมมีรายได้ 50,000 บาท
เดือนที่ 4 ผมมีรายได้ 110,0000
และหลังจากนั้น ผมไม่เคยมีรายได้ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาทอีกเลย
วันที่ 16 ธันวาคม 2552 หรือ 2553 ผมจำได้ไม่ดีนัก ฝ่ายบุคคลเดินมาหาผมแล้วบอกว่า อานนท์ รายได้เธอเกิน 1 ล้านบาทแล้ว เธอจะเอาอะไรมา ลดหย่อนภาษี บ้าง?
คุณว่าวันนั้นผมจะสะดุ้ง และนึกถึงคำพูดของใครครับ ?
ใช่...คุณคิดถูก! และใช่!ที่ผมก็คิดเหมือนคุณ! A10 (เอเท็น)
คุณไม่ใช่นักขอ แต่คุณคือ..."ผู้ให้"
.
สำหรับข้อมูลและเทคนิคที่ทำให้ผมเป็น Top sale สุดยอดนักขาย ได้ตั้งแต่ 4 เดือนแรกที่ทำงานที่ผมทำได้ คุณก็เอาไปใช้ได้เช่นกัน ผมได้ถ่ายทอดมันแบบลงลึกไปใน "i class 13 เทคนิคไม่ต้องขายก็ได้Deal" (Online class - ที่คุณสามารถกลับมาฟังซ้ำเท่าที่ใจคุณต้องการ) ข้อมูลนี้เหมาะสำหรับ - คนที่ต้องทำงานประสานกับผู้คนหลากหลาย คนทำงานประจำที่ต้องนำหลักการนี้ไป ปรับใช้กับการทำงาน และผู้คน -คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือมีทีมขาย - และที่สำคัญคือ คนที่เพิ่งเริ่มงาน หรือทำงานขายใหม่ๆ เพราะเทคนิคนี้ผมลองผิดลองถูกยังใช้เวลาแค่ 4 เดือนในการขึ้นระดับTop แต่ข้อมูลชุดนี้ผมกลั่นมาแล้ว และผมเชื่อว่าถ้าคุณนำเอาไปใช้คุณจะไปได้ไวกว่าผม
.
.
.
เครดิตข้อมูล : เพจ Aten+ Arnon https://www.facebook.com/atenarnon?fref=nf
.
.
ถ้าท่านต้องการเป็น นักขายระดับโลก Top Sale Of The Year สุดยอดนักขาย ที่ประสบความสำเร็จในการขายลองเอาไปปรับใช้กับการทำงาน และ ผู้คนที่ท่านต้องติดต่อด้วย ซึ่งน่าที่จะช่วยให้คุณสามารถเป็น นักขายที่มีคุณภาพ และสามารถประสบความสำเร็จในงานขายได้
.
ใน ธุรกิจเครือข่าย การมี หัวใจของการเป็นผู้ให้ อยากแบ่งปันสิ่งดีดีให้กับผู้คน เป็นสิ่งสำคัญในการขยายธุรกิจ และประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย ซึ่งง่ายๆเลย การมีความประทับใจสินค้า แล้วบอกต่อ
เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ VARA กลูต้า คอลลาเจน แล้ว ผิวสวย ขาวกระจ่างใส มีน้ำมีนวล คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความประทับใจ ซึ่งเชื่อว่า ใครก็อยากมี ผิวสุขภาพดี เหมือนกันกับท่าน เปรียบเหมือนท่านเป็น ผู้ให้ หรือมีความประทับใจในธุรกิจเครือข่าย ที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทำให้ชีวิตใครหลายๆคนดีขึ้น ท่านก็อยากบอกต่อ อยากให้ผู้คนที่ท่านรู้จัก มีรายได้ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
.
Innovative Global ธุรกิจเครือข่ายระดับโลก จากประเทศอเมริกา ที่นี่เราเชื่อว่า ความสำเร็จสร้างได้ ง่ายนิดเดียว ขอเพียงคุณเป็นคนที่มีความฝัน อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น มีหัวใจของการเป็นผู้ให้ เรามีเคล็ดลับดีดี ที่พร้อมที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
.
. บทความน่าสนใจ เทคนิคการเปิดใจด้วย Why I Join